TECHNICAL DATA
ข้อมูลเชิงเทคนิคของท่อ PPR

POLYPROPYLENE RANDOM COPOLYMER (PPR)

Polypropylene Random Copolymer (PPR) คือพลาสติกโพลีโพรไพลีนที่มีการจัดเรียงตัวอย่างไม่เจาะจงทำให้ได้คุณสมบัติท่อ PPR ทางเคมี และกายภาพดีมากเหมาะสมสำหรับการใช้งานระบบท่อน้ำ

โครงสร้าง PPR Pipe
โครงสร้าง PPR Pipe

ท่อ ไทย พีพี-อาร์ มีคุณสมบัติท่อ PPR ที่ดี ประกอบขึ้นจากวัสดุที่มีคุณภาพสูงเหมาะสำหรับระบบประปาทั้งน้ำร้อน น้ำเย็นรวมไปถึงระบบทำความเย็น (Chilled water system) ซึ่งมีค่า E-modulus ที่ทนทานต่อการยืดหยุ่นสูง ภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิสูงและการใช้งานโดยเฉลี่ยนานกว่า 50 ปี ตามอุณหภูมิและแรงดันที่ใช้งาน นอกจากนั้น THAI PP-R ยังมีคุณสมบัติท่อ PPR ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะอาดทนทานต่อสารเคมี ตามมาตรฐาน DIN 8077-8078 by DVGW ประเทศเยอรมนี ผ่านการทดสอบมาตรฐานความสะอาดจาก NSF 61, 372 และ WRAS

คุณสมบัติท่อ PPR ที่ควรรู้

คุณสมบัติท่อ PPR ท่อและข้อต่อติดตั้งเป็นเนื้อเดียวกันด้วยความร้อม ไม่มีวันรั่วทนทานต่อการใช้ในระบบน้ำร้อน ทนแรงดันน้ำได้สูง มีอายุการใช้งานนานถึง 50 ปี และสามารถใช้รวมกับท่อประปาชนิดอื่นได้ทุกชนิด

คุณสมบัติท่อ PPR จึงมีคุณลักษณะเฉพาะทางอยู่หลายอย่าง จึงนิยมนำมาใช้ทำให้กับการเดินระบบท่อประปาในอาคาร และท่ออื่นๆ ทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติท่อ PPR ที่เหนือกว่าท่อประเภทอื่นบางชนิด ทำให้คุณสมบัติท่อ PPR โดดเด่นดังนี้

คุณสมบัติท่อ PPR สามารถผสานท่อกับข้อต่อเป็นเนื้อเดียวได้จึงหมดกังวลปัญหาท่อรั่ว ซึ่งปกติแล้วท่อประปาอย่างท่อพีวีซีต้องใช้กาวหรือน้ำยาประสานท่อต่อกับอุปกรณ์ข้อต่อต่างๆ หากมีแรงดันน้ำเยอะๆหรือแรงสั่นมากๆจากปั๊มน้ำ ถ้าติดกาวไม่แน่นพอ หรือช่างติดตั้งลืมทากาวก็จะเกิดการหลุดและรั่วได้ แตกต่างจากคุณสมบัติท่อ PPR ก็คือการที่ท่อ PPR เชื่อมกับข้อต่อต่างๆด้วยการหลอมผสานผ่านเครื่องเชื่อมท่อแบบพิเศษ การหลอมแบบนี้ทำให้ท่อและข้อต่อผสานเป็นเนื้อเดียวกันทำให้ปัญหาท่อหลุด น้ำซึม น้ำรั่ว ได้ดี สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการติดตั้ง

คุณสมบัติท่อ PPR สามารถรองรับระบบน้ำร้อนได้สูงถึง 95 องศาในรุ่น PN20 ซึ่งท่อประปาอย่างท่อพีวีซีไม่สามารถทนความร้อนได้ดีเทียบเท่าคุณสมบัติท่อ PPR ได้ หรือแม้ท่อเหล็กที่สามารถรองรับระบบน้ำร้อนได้มากกว่า แต่มีคุณสมบัติที่หนักและเป็นสนิมได้ง่าย คุณสมบัติท่อ PPR ดังกล่าวเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการติดตั้งท่อระบบน้ำอุ่น-น้ำร้อนในอาคาร ท่อ PPR PN10 มีไว้สำหรับน้ำอุ่น และ PN20 คือสำหรับน้ำร้อน ควรเลือกท่อให้เหมาะกับการใช้งาน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ตารางการให้ความร้อน

• คุณสมบัติท่อ PPR มีความทนทานที่เหนือกว่าพีวีซี ไม่เปราะแตกง่าย นั้นหมายความว่าหากท่อได้รับแรงกระแทกจากภายนอก หรือแรงดันน้ำภายท่อที่มีอัตราการไหลแรงกว่าที่ท่อพีวีซีจะรับได้ท่อก็จะแตก ในทางตรงข้ามคุณสมบัติท่อPPR ที่ถูกผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ จึงมีความเหนียวและยืดหยุ่นมากกว่าสามารถรับแรงดันภายในและภายนอกได้ดีกว่า
• คุณสมบัติท่อ PPR ที่ทนแรงดัน 10 และ 20 บาร์ส่วนท่อพีวีซีสามารถทนแรงดันน้ำได้มากสุดแค่ 13.5 บาร์เท่านั้น นั้นหมายความว่าหากใช้หรือลงสเปกท่อพีวีซี ในการออกแบบแต่ละครั้ง ต้องออกแบบการเดินท่อบางจุดให้อยู่ 45 หรือ 90 องศา จึงจำเป็นต้องใช้ท่อและข้อต่อมากขึ้น ให้มีมุมหักงอหรือคดเคี้ยวมากขึ้นเพื่อลดแรงดันน้ำให้น้อยลงป้องกันท่อพีวีซีแตก สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ตารางการทนแรงดัน

• คุณสมบัติท่อ PPR มีความทนทานต่อสารเคมีได้จึงสามารถใช้ขนถ่ายสารเคมีได้ แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบที่จะส่งผลต่อคุณภาพของท่อและข้อต่อ PPR ด้วย ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ตารางท่อ PPR ทนสารเคมี

นอกเหนือจากนี้คุณสมบัติท่อ PPR ยังมีอีกมากที่ควรรู้ และเข้าใจเพื่อนำไปใช้งาน สื่อสารกับช่าง ตลอดจนกำหนดวางสเปกได้ถูกต้องตามเทคนิคคุณสมบัติ PPR ติดตามข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เมนูด้านล่าง

คุณสมบัติ
ท่อ PPR

ระยะการติดตั้ง
ซัพพอร์ท

EXPANSION
LOOP

ตารางสารเคมี

การหุ้มฉนวน

EXPANSION
FORCE

PRESSURE LOSS
DIAGRAM

ตารางแสดงอายุ
การใช้งานตามแรงดัน
และอุณหภูมิ

การติดตั้ง
โซลาร์เซลส์

การทาสี
ป้องกัน UV

POLYPROPYLENE RANDOM
COPOLYMER (PPR)

Polypropylene Random Copolymer (PPR) คือพลาสติกโพลีโพรไพลีนที่มีการจัดเรียงตัวอย่างไม่เจาะจงทำให้ได้คุณสมบัติท่อ PPR ทางเคมี และกายภาพดีมากเหมาะสมสำหรับการใช้งานระบบท่อน้ำ

ท่อ ไทย พีพี-อาร์ มีคุณสมบัติท่อ PPR ที่ดี ประกอบขึ้นจากวัสดุที่มีคุณภาพสูงเหมาะสำหรับระบบประปาทั้งน้ำร้อน น้ำเย็นรวมไปถึงระบบทำความเย็น (Chilled water system) ซึ่งมีค่า E-modulus ที่ทนทานต่อการยืดหยุ่นสูง ภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิสูงและการใช้งานโดยเฉลี่ยนานกว่า 50 ปี ตามอุณหภูมิและแรงดันที่ใช้งาน นอกจากนั้น THAI PP-R ยังมีคุณสมบัติท่อ PPR ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะอาดทนทานต่อสารเคมี ตามมาตรฐาน DIN 8077-8078 by DVGW ประเทศเยอรมนี ผ่านการทดสอบมาตรฐานความสะอาดจาก NSF 61, 372 และ WRAS

คุณสมบัติท่อ PPR ที่ควรรู้

คุณสมบัติท่อ PPR ท่อและข้อต่อติดตั้งเป็นเนื้อเดียวกันด้วยความร้อม ไม่มีวันรั่วทนทานต่อการใช้ในระบบน้ำร้อน ทนแรงดันน้ำได้สูง มีอายุการใช้งานนานถึง 50 ปี และสามารถใช้รวมกับท่อประปาชนิดอื่นได้ทุกชนิด

คุณสมบัติท่อ PPR จึงมีคุณลักษณะเฉพาะทางอยู่หลายอย่าง จึงนิยมนำมาใช้ทำให้กับการเดินระบบท่อประปาในอาคาร และท่ออื่นๆ ทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติท่อ PPR ที่เหนือกว่าท่อประเภทอื่นบางชนิด ทำให้คุณสมบัติท่อ PPR โดดเด่นดังนี้

คุณสมบัติท่อ PPR สามารถผสานท่อกับข้อต่อเป็นเนื้อเดียวได้จึงหมดกังวลปัญหาท่อรั่ว ซึ่งปกติแล้วท่อประปาอย่างท่อพีวีซีต้องใช้กาวหรือน้ำยาประสานท่อต่อกับอุปกรณ์ข้อต่อต่างๆ หากมีแรงดันน้ำเยอะๆหรือแรงสั่นมากๆจากปั๊มน้ำ ถ้าติดกาวไม่แน่นพอ หรือช่างติดตั้งลืมทากาวก็จะเกิดการหลุดและรั่วได้ แตกต่างจากคุณสมบัติท่อ PPR ก็คือการที่ท่อ PPR เชื่อมกับข้อต่อต่างๆด้วยการหลอมผสานผ่านเครื่องเชื่อมท่อแบบพิเศษ การหลอมแบบนี้ทำให้ท่อและข้อต่อผสานเป็นเนื้อเดียวกันทำให้ปัญหาท่อหลุด น้ำซึม น้ำรั่ว ได้ดี สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการติดตั้ง

คุณสมบัติท่อ PPR สามารถรองรับระบบน้ำร้อนได้สูงถึง 95 องศาในรุ่น PN20 ซึ่งท่อประปาอย่างท่อพีวีซีไม่สามารถทนความร้อนได้ดีเทียบเท่าคุณสมบัติท่อ PPR ได้ หรือแม้ท่อเหล็กที่สามารถรองรับระบบน้ำร้อนได้มากกว่า แต่มีคุณสมบัติที่หนักและเป็นสนิมได้ง่าย คุณสมบัติท่อ PPR ดังกล่าวเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการติดตั้งท่อระบบน้ำอุ่น-น้ำร้อนในอาคาร ท่อ PPR PN10 มีไว้สำหรับน้ำอุ่น และ PN20 คือสำหรับน้ำร้อน ควรเลือกท่อให้เหมาะกับการใช้งาน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ตารางการให้ความร้อน

• คุณสมบัติท่อ PPR มีความทนทานที่เหนือกว่าพีวีซี ไม่เปราะแตกง่าย นั้นหมายความว่าหากท่อได้รับแรงกระแทกจากภายนอก หรือแรงดันน้ำภายท่อที่มีอัตราการไหลแรงกว่าที่ท่อพีวีซีจะรับได้ท่อก็จะแตก ในทางตรงข้ามคุณสมบัติท่อPPR ที่ถูกผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ จึงมีความเหนียวและยืดหยุ่นมากกว่าสามารถรับแรงดันภายในและ
ภายนอกได้ดีกว่า

• คุณสมบัติท่อ PPR ที่ทนแรงดัน 10 และ 20 บาร์ส่วนท่อพีวีซีสามารถทนแรงดันน้ำได้มากสุดแค่ 13.5 บาร์เท่านั้น นั้นหมายความว่าหากใช้หรือลงสเปกท่อพีวีซี ในการออกแบบแต่ละครั้ง ต้องออกแบบการเดินท่อบางจุดให้อยู่ 45 หรือ 90 องศา จึงจำเป็นต้องใช้ท่อและข้อต่อมากขึ้น ให้มีมุมหักงอหรือคดเคี้ยวมากขึ้นเพื่อลดแรงดันน้ำให้น้อยลงป้องกันท่อพีวีซีแตก สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ตารางการทนแรงดัน

• คุณสมบัติท่อ PPR มีความทนทานต่อสารเคมีได้จึงสามารถใช้ขนถ่ายสารเคมีได้ แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบที่จะส่งผลต่อคุณภาพของท่อและข้อต่อ PPR ด้วย ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ตารางท่อ PPR ทนสารเคมี